บทความ

สูตรลับ! วางแผนซื้อประกันภัยอย่างไร ให้คุ้มค่า

เคยสงสัยกันไหมครับว่า …
จะซื้อประกันภัยรถยนต์ทั้งทีเราต้องรู้อะไรบ้าง?
แล้วเราจะวางแผนซื้อประกันภัยรถยนต์อย่างไรให้คุ้มค่าที่สุด?
วันนี้พี่สิงโตจึงมี “สูตรลับ” ในการวางแผนการซื้อประกันภัยมาให้ ไปดูกันเลยครับ

 

เบี้ยประกันภัยเหมาะสม

เบี้ยต้องพอดีเหมาะสมกับความคุ้มครองที่เลือกซื้อ ไม่สูงเกินความจำเป็น และต้องไม่เป็นภาระของผู้เอาประกันจนเกินไป

 

เลือกความคุ้มครองให้คุ้มค่า

เบี้ยจะถูกจะแพงก็ขึ้นอยู่กับจำนวนความคุ้มครองนี้ล่ะครับ ซึ่งพี่สิงโตขอบอกว่าจำนวนความคุ้มครองนี่สำคัญมาก ๆ เลยนะ ดังนั้นเวลาเลือกซื้อประกันภัย ผู้เอาประกันภัยต้องดูจำนวนความคุ้มครองต่าง ๆ ว่าเหมาะสมและเพียงพอหรือไม่ พูดง่าย ๆ ก็คือ ความคุ้มครองต้องมีมากพอที่จะครอบคลุมค่าเสียหายต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต ทั้งในส่วนของจำนวนเงินความคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอก ความคุ้มครองต่อรถคันเอาประกันภัย รวมทั้งความคุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคลของผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้วย และความคุ้มครองนั้นก็ต้องมีในจำนวนที่ไม่น้อยเกินไปจนอาจส่งผลให้ผู้เอาประกันภัยต้องควักเงินส่วนต่าง ๆ เยอะแยะมากมาย เมื่อเกิดความเสียหายขึ้น

 

บริษัทประกันภัยที่น่าเชื่อถือ

ผู้เอาประกันต้องศึกษาหาข้อมูลบริษัทผู้รับประกันภัยที่มีความมั่นคง น่าเชื่อถือและไว้วางใจได้ โดยผู้เอาประกันภัยจะรู้สึกอุ่นใจและมั่นใจมากกว่า หากเราได้รับการบริการจากบริษัทที่เราคัดเลือกมาเป็นอย่างดี

 

ความสามารถของผู้ขับขี่/ พฤติกรรมการขับขี่

ในเรื่องตัวบุคคลที่เป็นผู้ขับขี่นั้นเป็นสิ่งหนึ่งที่สามารถจะนำมาพิจารณาในการเลือกซื้อประกันภัยให้เหมาะสมกับแพคเกจประกันภัยที่ออกมามากมายหลากหลายในปัจจุบัน เพราะความเสี่ยงที่ต่างกันของแต่ละคนย่อมส่งผลให้เบี้ยประกันภัยต่างกัน คนที่มีความเสี่ยงน้อยหรือคนที่ใช้งานรถน้อย เบี้ยประกันภัยย่อมถูกกว่าคนที่มีความเสี่ยงมากหรือคนที่ใช้งานรถมาก เช่น คนที่ไม่ดื่มเหล้าก็เลือกแผนประกันภัยแบบปลอดแอลกอฮอลล์หรือคนที่ใช้รถน้อยก็อาจเลือกแผนประกันที่คิดเบี้ยตามระยะทาง หรือใช้รถกันแค่ 2 คนก็สามารถเลือกซื้อแผนประกันภัยแบบระบุผู้ขับขี่ เป็นต้น โดยในส่วนนี้จะทำให้เบี้ยประกันภัยที่ต้องจ่ายนั้นลดลงได้อย่างแน่นอนครับ

 

อายุการใช้งานและสภาพของรถ

สำหรับรถที่อายุการใช้งานน้อย ผู้เอาประกันสามารถเลือกความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจได้แทบทุกประเภทประกันภัย หากเลือกทำประกันประเภท 1 ลูกค้าก็จะอุ่นใจมาก ๆ เลยล่ะครับ เพราะคุ้มครองกว้างทีเดียว แต่หากรถมีอายุการใช้งานมาก ๆ เช่น 15 ปีขึ้นไป อาจทำประกันภัยประเภท 1 ไม่ได้ แต่ยังคงสามารถทำประกันภัยประเภทอื่น ๆ ได้ โดยเบี้ยประกันจะถูกหรือแพงนั้นก็ขึ้นอยู่กับสภาพรถ ประวัติการใช้งาน ประวัติการเคลมอีกด้วย ซึ่งหากรถอยู่ในเกณฑ์ได้รับประวัติดี เบี้ยประกันก็จะถูกลงนะครับ

 

นี่ล่ะครับคือ “สูตรลับ” ในการเลือกซื้อประกันภัยที่พี่สิงโตสรรหามาฝากสำหรับคนที่วางแผนจะซื้อประกัน ซึ่งพี่สิงโตขอแนะนำให้ทุกคนวางแผนให้ดี ให้คุ้มค่า เพื่อผลประโยชน์ของเราในอนาคตนะครับ